ขั้นตอนการเตรียมตัวเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ก่อนที่จะพูดถึงขั้นตอนการเตรียมตัวเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ก่อนอื่น ต้องถามน้องๆก่อนว่า น้องๆเคยได้ยินคำว่า ?ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต? มาก่อนไหมคะ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คืออะไร น้องๆหลายคนที่กำลังเรียนทางด้านบัญชี รวมถึงน้องๆอีกหลายคนที่กำลังคิดจะเข้ามาเรียนในสายวิชาชีพบัญชี อาจจะเคยได้ยินคำว่า ?ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต? มาบ้างแล้ว นิติบุคคลต่างๆ เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน เมื่อมีการจัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคล ก็ต้องมีหน้าที่จัดทำงบการเงิน เพื่อนำส่งต่อหน่วยงานต่างๆที่ทำหน้าที่กำกับดูแล เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น หรือหากกิจการเหล่านั้น ต้องการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อขยายกิจการ สถาบันการเงินจะขอดูงบการเงินของกิจการเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะให้กิจการนั้นกู้ยืมหรือไม่ ซึ่งงบการเงินที่กิจการทำขึ้นมานั้น อาจไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากกิจการทำขึ้นเอง ดังนั้น เพื่อให้งบการเงินของกิจการน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น จึงให้บุคคลภายนอกกิจการที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านบัญชีเข้ามาตรวจสอบงบการเงินของกิจการเพื่อแสดงความเห็นต่อความถูกต้องของงบการเงินนั้น บุคคลภายนอกในที่นี้ ก็คือ ผู้สอบ-บัญชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant : CPA) นั่นเอง หน่วยงานที่กำกับดูแลผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในปัจจุบัน คือ สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่หากเป็นกิจการขนาดเล็ก คือ เป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท อาจไม่ต้องให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงินก็ได้ แต่ให้ผู้สอบ-บัญชีภาษีอากรซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตรวจสอบแทนได้ ? เอาล่ะ ตอนนี้เราพอจะรู้คร่าวๆแล้วว่า ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คืออะไรแล้ว สำหรับน้องๆที่สนใจอยากเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต แต่ไม่รู้ว่าต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เชิญทางนี้ค่ะ ขั้นแรก ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ขั้นที่สอง ฝึกหัดงานสอบบัญชี ขั้นที่สาม ทดสอบความรู้ ขั้นที่สี่ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ? ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต? ก่อนอื่น มาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตกันก่อนนะคะ เพื่อเตรียมความพร้อมของพวกเรากันก่อนค่ะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติว่ามีอะไรบ้างต้องไปดูที่ พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 มาตรา 39 ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของผู้สอบบัญชี-รับอนุญาตต้องไปดูที่ ข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับที่ 7) เรื่อง การออกใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ข้อที่ 8 รวมถึงผู้ที่จะสามารถเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องเรียนทางด้านบัญชี ซึ่งเป็นการเรียนในระดับไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สภาวิชาชีพบัญชีให้การรับรองซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถหาได้จาก ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ฉบับที่ 5/2548 เรื่อง เกณฑ์การพิจารณารับรองคุณวุฒิการศึกษาปริญญาทางการบัญชีและประกาศนียบัตรทางการบัญชีและรายชื่อปริญญาหรือประกาศนียบัตรในวิชาการบัญชีของสถาบันการศึกษา เพื่อประโยชน์ในการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสภาวิชาชีพบัญชี?? ฝึกหัดงานสอบบัญชี? หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้วว่าเรามีคุณสมบัติครบถ้วนไม่มีลักษณะต้องห้าม รวมถึงมีวุฒิการศึกษาตามที่กำหนดแล้ว ขั้นต่อไปก็คือจะต้องไปฝึกหัดงานสอบบัญชีกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาต การฝึกหัดงาน สอบบัญชีนี้ไม่จำเป็นจะต้องรอให้เรียนจบปริญญาตรีทางบัญชีก็ได้ ระหว่างที่เป็นนักศึกษาปริญญาตรีอยู่ก็สามารถไปฝึกหัดงานได้ แต่ต้องสอบผ่านวิชาบัญชีมาแล้วอย่างน้อย 4 วิชา และวิชาสอบบัญชีอย่างน้อย 1 วิชา รวมทุกวิชาแล้วไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิต จึงจะสามารถเริ่มนับชั่วโมงฝึกงานได้ โดยการฝึกหัดงานจะต้องฝึกต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 ปี และมีจำนวนชั่วโมงรวมกันไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง และจะต้องมีการยื่นเอกสารหลักฐานแจ้งการฝึกหัดงานนี้ให้แก่สภาวิชาชีพบัญชี ดังนี้ แจ้งการฝึกหัดงาน แจ้งก่อนเริ่มการฝึกหัดงาน โดยใช้เอกสารดังนี้?- แบบ ผส.1?- สำเนาปริญญาบัตร และ ใบรับรองผลการศึกษาพร้อมต้นฉบับ?- สำเนาบัตรประชาชน?- สำเนาทะเบียนบ้าน รายงานการฝึกหัดงาน แจ้งปีละหนึ่งครั้ง นับตั้งแต่วันแจ้งการฝึกหัดงาน โดยใช้เอกสารดังนี้ - แบบ ผส.2 - เลขที่คำขอแจ้งการฝึกหัดงาน - หนังสือยืนยันจากนิติบุคคลที่เราไปตรวจสอบ สิ้นสุดการฝึกหัดงาน แจ้งเมื่อฝึกงานครบตามที่กำหนดแล้ว โดยใช้เอกสารดังนี้ - แบบ ผส.3 - เลขที่คำขอแจ้งการฝึกหัดงาน - หนังสือยืนยันจากนิติบุคคลที่เราไปตรวจสอบ กรณีที่มีการเปลี่ยนผู้ให้การฝึกหัดงาน แจ้งภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง?ผู้ให้การฝึกงาน โดยใช้เอกสารดังนี้ ?- แบบ ผส.2 และ แบบ ผส.3 สำหรับผู้ให้การฝึกงานเดิม ?- แบบ ผส.4 สำหรับผู้ให้การฝึกงานใหม่ - เลขที่คำขอแจ้งการฝึกหัดงาน - หนังสือยืนยันจากนิติบุคคลที่เราไปตรวจสอบ ทดสอบความรู้ เมื่อเรียนจบปริญญาตรีด้านบัญชีจากสถาบันการศึกษาที่สภาวิชาชีพบัญชีให้การรับรอง โดยสอบผ่านวิชาบัญชีตามที่กำหนด 8 รายวิชา ดังต่อไปนี้ การบัญชีขั้นต้น และบัญชีขั้นกลาง 3 รายวิชา? การบัญชีขั้นสูง 2 รายวิชา การบัญชีต้นทุน 1 รายวิชา การสอบบัญชี 1 รายวิชา การภาษีอากร 1 รายวิชา รวม 8 รายวิชา และยื่นคำขอแจ้งการฝึกหัดงานแล้ว น้องๆก็สามารถจะสมัครทดสอบความรู้ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ฝึกงานครบ 3 ปี 3,000 ชั่วโมงก่อน ปัจจุบันวิชาที่ต้องทดสอบมีทั้งหมด 6 วิชาด้วยกัน คือ ? - วิชาการบัญชี 1 - วิชาการบัญชี 2 - วิชาการสอบบัญชี 1 - วิชาการสอบบัญชี 2 - วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี และ - วิชาการสอบบัญชีที่ประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ โดยสามารถเลือกได้ว่าสมัครสอบครบทุกวิชา หรือเลือกเพียงบางวิชาก็ได้ ถ้าสอบได้คะแนนตั้งแต่ 60% ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่านวิชานั้นและสามารถเก็บสะสมวิชาที่สอบผ่านได้ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ผ่านการทดสอบ โดยในปี 2551 สภาวิชาชีพบัญชีกำหนดให้มีการสอบทั้งหมด 3 ครั้ง ในช่วงเดือน มีนาคม กรกฎาคม และ ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ค่าธรรมเนียมการสอบวิชาละ 500 บาท โดยมีหลักฐานการสมัครสอบ ดังนี้ - แบบ ก.บช. 9 - บัตรประจำตัวผู้เข้าทดสอบ - รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ? กรณีที่เข้าทดสอบครั้งแรกต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม คือ - เลขที่คำขอแจ้งการฝึกหัดงาน - สำเนาปริญญาบัตร และ Transcript พร้อมต้นฉบับ - สำเนาบัตรประชาชน - สำเนาทะเบียนบ้าน ขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เมื่อน้องๆสอบผ่านครบทุกวิชาแล้ว สภาวิชาชีพบัญชีจะส่งจดหมายแจ้งให้ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต น้องๆก็ต้องไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตโดยใช้เอกสารดังนี้ - แบบ ก.บช. 1 - รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน - หนังสือรับรองความประพฤติจากสถานที่ทำงานปัจจุบัน - บัตรประจำตัวสอบ - สำเนาบัตรประชาชน - สำเนาทะเบียนบ้าน หลังจากที่น้องๆ ไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว สภาวิชาชีพบัญชีจะพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนของน้องๆ ต่อจากนั้นจะส่งหนังสือแจ้งให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต จำนวน 1,000 บาท และถ้าน้องๆไม่อยากเสียเวลาเดินทางไปรับใบอนุญาตที่สภาวิชาชีพบัญชีด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งก็สามารถขอให้จัดส่งใบอนุญาตทางไปรษณีย์ โดยต้องเสียค่าจัดส่งเพิ่มอีก 30 บาท เท่านี้ น้องๆก็จะได้รับใบอนุญาตส่งตรงไปให้ถึงที่บ้านของน้องๆได้เลยค่ะ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงสรุปขั้นตอนในการเตรียมตัวเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแบบคร่าวๆนะคะ ถ้าน้องๆ สนใจรายละเอียดตรงส่วนไหนเพิ่มเติม สามารถศึกษาดูได้จาก Website ของสภาวิชาชีพบัญชีที่
อ.รวิชุดา บรรจงมณี
อาจารย์ประจำคณะบัญชี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
http://www.fap.or.th ค่ะ